แท้จริงแล้ว ทุกคนคือนักเดินทาง

สนทนาธรรมกับท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต พร้อมแขกรับเชิญพิเศษ คุณสิริเกศอนงค์ ไตรรัตนทรงพล ผู้อำนวยการกอง ตลาดเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ดำเนินรายการโดย ดร.ณัฐวุฒิ กุลนิเทศ
การสนทนาครั้งนี้ได้ร่วมพูดคุยกับ คุณสิริเกศอนงค์ ไตรรัตนทรงพล ผู้อำนวยการกอง ตลาดเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) บุคคลที่ทำหน้าที่ให้การเดินทางของคนทั่วโลกได้มีโอกาสได้มาสัมผัสการท่องเที่ยว วัฒนธรรม และเสน่ห์ของเมืองไทยในมุมต่างๆ แต่ในอีกความของการเดินทางทางด้านธรรมะ แท้จริงแล้วมันคืออะไร วันนี้ได้มาแลกเปลี่ยนกับแม่ชีศันสนีย์ ซึ่งทำให้เห็นว่า ไม่ว่าจะทางโลกหรือทางธรรม การเดินทางย่อมพาเราทุกคนจากที่หนึ่งไปสู่ที่หนึ่งเสมอ เพราะเราทุกคนล้วนต่างเป็นนักเดินทางด้วยกันทั้งสิ้น
การท่องเที่ยวแบบนักเดินทาง
คุณสิริเกศอนงค์
ทุกคนสามารถล้วนเป็นนักเดินทางได้ นั่นคือการเคลื่อนย้ายจากที่หนึ่งไปที่ใหม่ๆ อีกที่หนึ่งเสมอ ขณะเดียวกันหากมองในอีกรูปแบบหนึ่ง ก็คือ การเดินทางในตัวเองที่จะได้ค้นพบสิ่งใหม่ๆ ได้ด้วย และโดยส่วนตัวเป็นคนที่มีความสุขกับการเดินทางได้ง่ายมาก เพราะแค่เพียงได้เดินไปถนนเส้นหนึ่งที่ไม่เคยไป แล้วพอได้ไปเจอสิ่งใหม่ที่ทำให้รู้ว่าตรงนั้นมีอะไรอยู่ก็รู้สึกว่าเป็นการเดินทางแล้ว แต่การเดินทางค้นหาตัวเราเองนั่นคือสิ่งสำคัญที่สุด
แม่ชีศันสนีย์
เป็นเรื่องปฏิเสธไม่ได้ที่การเกิดของเราก็เป็นการเดินทาง การตายของก็เป็นการเดินทาง Special Journey ว่าจะผจญภัยอย่างไรให้การเดินทางนั้นอย่างมีอิสรภาพ ซึ่งเรื่องของการเดินทางสามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนได้หลายมิติ แต่ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา การเดินทางของคนรุ่นใหม่อย่างลิซ่าทำให้เห็นได้ว่า เป็นการเดินทางไปหาในสิ่งที่เขารักและมีเป้าหมาย
ตอนที่ประจำที่กรุงโซลทำให้เห็นความมุ่งมั่นและความตั้งใจของน้องลิซ่า Blackpink
คุณสิริเกศอนงค์
การเดินทางของน้องๆ คนไทยที่ได้ไปเป็นศิลปินที่เกาหลี ททท.ไม่ได้ดำเนินการอะไรเลย เพราะอันนี้เป็นการเดินทางภายในจากตัวน้องๆ เองเป็นหลัก เพราะทุกคนที่ไปอยู่ตรงนั้น เป็นเด็กฝึกของเกาหลี
มันทรหด สาหัส ทุกคนต้องฝึกฝนอย่างหนัก และต้องก้าวผ่านที่เรียกว่ากำลังใจสูงมาก ทั้งทางกาย ภาษา และการที่คนเราจะสามารถก้าวข้ามผ่านไปได้ย่อมมีอีกหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องอีกมาก เช่น เปลี่ยนที่อยู่ สิ่งแวดล้อม ก็จะมีผลต่อจิตใจ เชื่อเลยว่าน้องๆ ที่ได้ไปพัฒนาและเติบโตที่เกาหลี สิ่งหนึ่งที่มีมากเลยคือ การเข้มแข็งในจิตใจอันนี้สำคัญมาก แม้ว่าน้องเหล่านั้นอาจจะไม่มีโอกาสได้ฝึกธรรมะโดยตรง แต่เชื่อได้ว่าสิ่งที่เขาได้ไปเผชิญ สุดท้ายเขาจะทำให้เขาเข้าใจสัจธรรมหรือวิธีปรับ วิธีคิดภายในตัวเองได้เยอะมาก ซึ่งก็เหมือนเราทุกคนที่ได้เจอกับบททดสอบต่างๆ โดยคิดว่าอาจจะเป็นวิธีการฝึกจิตอย่างหนึ่ง
หรือการที่น้องๆ ที่จะไปเกาหลี คนไทยอาจจะมองว่าไปเกาหลีเพราะชอบ K-Pop ชอบซีรีส์ แต่จากตอนที่ตัวเองได้ไปอยู่ที่นั้นได้เห็นว่ามีน้องๆ หลายคนที่ได้รับทุนไปเรียนต่อ เป็นเด็กที่เก่งมากๆ ที่เกาหลีมีอะไรหลายอย่างที่มากกว่าการเป็นศิลปินหรือดารา โดยมีอีกหลายส่วนที่น่าสนใจมาก แต่ไม่ว่าใครจะเดินทางด้วยเป้าหมายไหนทั้งน้องที่ไปเป็นศิลปินหรือไปศึกษาต่อ สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ต้องเดินทาง และต้องฝึกฝนจิตใจอย่างมาก แม้ไม่ได้ศึกษาธรรมะโดยตรง แต่สิ่งที่เป็นบททดสอบกับเขาจะทำให้เขาได้ค้นพบสัจธรรมบางอย่างหรือทำให้เขาจิตใจที่เข้มแข็งบางอย่างได้
แม่ชีศันสนีย์
เหมือนเขาต้องเอาชนะใจตัวเองแล้วก็อยากไปถึงสิ่งที่เขาฝันหรือจับต้องได้ แต่การที่เด็กหนึ่งคนอายุ 10 ขวบ แล้วเขาไม่ลืมเป้าหมาย แสดงว่าเขาต้องชอบสิ่งนั้นจริงๆ ส่วนในแบบของพวกเรามองไปเรื่องของการมีอิสรภาพ ดังนั้นมองว่า ไม่ว่าจะเป็นไหน วินัยจึงเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อไปเกาหลีอะไรที่ลงทุนไปเขาก็ต้องเอากำไรคืน ดังนั้นเด็กๆ ก็ต้องยอมรับกติกาและมีปัญญามากพอ และการเปิดตัวของเด็กๆ ที่มาจากความตั้งใจจะทำให้ทุกคนสนับสนุนเขาอย่างมีความสุข
คุณสิริเกศอนงค์
เคยเจอลิซ่าครั้งแรกตอนที่น้องเดบิวต์หรือปรากฎตัวกับสาธารณะครั้งแรกเมื่อปี 2016 ย้อนดูว่า และมีช่วงหนึ่งที่น้องต้องเดินทางถ่ายทำที่เกาะสมุยครั้งแรก มีแฟนคลับอยู่บ้าง แรกๆ พอรู้ว่าเป็นคนไทย มีแฟนคลับคนไทยค่อนข้างเยอะ และตอนที่น้องมาร่วมเคารพพระบรมศพ ร.9 น้องมาที่สถานฑูตไทยที่เกาหลี
สิ่งที่ประทับใจกับลิซ่า
คุณสิริเกศอนงค์
สิ่งที่ประทับคนเกาหลีอยู่ 2 เรื่อง คือ ความมุมานะ เพราะทุกคนจะเป็นคนที่มีความตั้งใจจะพัฒนาชาติ และมีความรักชาติมาก ซึ่งบุคคลที่รู้สึกนับถือและชื่นชอบมี 2 คนนั่นคือ ผู้ก่อตั้งบริษัท ฮุนได กรุ๊ป ซึ่งท่านก็ได้เสียชีวิตไปแล้ว อีกคนก็คือน้องลิซ่าเพราะรู้ว่าช่วงแรกน้องอาจจะไม่ได้รับความนิยมในเกาหลี เนื่องจากคนเกาหลีมีความรักชาติสูงมาก ทำให้เห็นว่าน้องไม่ได้ดีดนิ้วแล้วจะประสบความสำเร็จเลย แต่กว่าน้องจะผ่านการฝึกฝนมาอย่างหนัก 5 ปี จนได้ออกอัลบั้ม พอได้ออกอัลบั้มก็มีกลุ่มที่แอนตี้น้อง ไม่ได้ทุกคนที่จะชื่นชอบหรือรักน้องเพราะเกาหลีมีความเป็นชาตินิยมอยู่แล้ว ดังนั้น คนต่างชาติที่จะเข้าไปก็ต้องมีการพิสูจน์ตัวเองเยอะมาก ทั้งคนเกาหลี หรือแม้กระทั้งคนชาติเดียวกันก็ไม่รับการชื่นชอบได้ง่ายๆ
สิ่งที่น่านับถือมากคือ การที่น้องอดทนมาก เพราะการที่น้องจะมายืนตรงนี้ต้องมีบททดสอบและจิตใจที่เข้มแข็งมาก ไม่ใช่เรื่องปกติที่เราจะโดนบูลลี่ (Bully) ตลอดเวลา มีคนยื่นของให้ศิลปินคนอื่นในวง แล้วลิซ่ายื่นของให้แฟนคลับ แต่ลิซ่าถูกปฏิเสธมันเป็นการทำร้ายจิตใจที่ค่อนข้างเยอะ ทั้งๆ ที่ตัวน้องเองก็ไม่ได้อายุเยอะ แต่ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมาเยอะ และบวกกับตัวน้องเองค่อนข้างเป็นคนคิดแง่บวก จึงทำให้ทุกวันนี้น้องมีความแข็งแกร่งมากที่จะรับมือในสถานการณ์ต่างๆ ได้ดี และสามารถผ่านพ้นเหตุการณ์เหล่านั้นได้อย่างเข้มแข็ง
สิ่งที่นำไปแนะนำนักท่องเที่ยวเกาหลี
คุณสิริเกศอนงค์
ตอนนั้นนำเสนอเรื่องบุคลิกภาพของคนไทยที่มีส่วนสำคัญมาก เพราะบางคนอาจเคยได้ยินแท็กไลน์
อันเก่าของ Amazing Thailand และตรงนี้ยังเป็นสิ่งสำคัญในการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งนอกจากเรื่องอาหารแล้ว เมืองไทยยังมี มวยไทย วัฒนธรรมไทย หัตถกรรมต่างๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องน้ำจิตน้ำใจคนไทย สิ่งที่ยังคงชอบและคิดว่าว่ายังใช้ได้กับการแนะนำเมืองไทย โดยทั่วไปและไม่ใช่เฉพาะกับคนเกาหลีเท่านั้น นั่นคือ It’s begin with it the people เพราะมองว่าความอะเมซิ่งของไทยคือเริ่มมาจากคนไทยนี่แหละ แต่สำหรับปีหน้า Union Mall Amazing เพราะมองว่า โลกหลังโควิด-19 จะมีสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปอีกมาก แต่สิ่งหนึ่งไม่ที่ชาวต่างชาติจะประทับใจทุกครั้งเมื่อที่มาเมืองไทยคือ เรื่องของบุคลิกภาพ น้ำใจ และรอยยิ้มของคนไทย
การเดินทางภายใน
แม่ชีศันสนีย์
น่าจะต้องเริ่มต้นจากที่มนุษย์ต้องมีศรัทธาว่าจะเดินทางด้านใน แล้วไปให้ถึงที่สุดแห่งทุกข์ได้ ไม่ว่าเราจะมาจากโลกที่มืดหรือโลกสว่าง ถ้าเรามีศรัทธา หมายถึง การที่เรามีสัจจะกับสิ่งที่เราศรัทธา หรือที่ใครหลายคนมักพูดถึงตอนนี้เมืองไทยมีจุดแข็งมากเลยในเรื่องของ Wellness หรือสุขภาพอย่างเดียว แต่เราควรต้องมีมากกว่าในสิ่งที่เรามีมากกว่า เพราะหลังโควิด-19 จะไม่มีอะไรเหมือนเดิม อาจต้องมีทางเลือกแบบการเดินทางหรือการท่องเที่ยวที่เราไม่ได้ออกไปสดชื่นข้างนอกเพียงอย่างเดียว แต่เรารักษา มีสติเป็นดังเกาะการเดินทางด้านในเป็นแบบ Special Journey
“การเดินทางอย่างโลดโผนหรือท้าทาย บุกไปข้างหน้า วิ่งไปหาธรรมชาติข้างนอกอาจเริ่มมีขีดจำกัดมากขึ้น แต่การเดินทางด้านในอยู่ตรงไหนก็สามารถเข้าไปได้ ถ้ามีศรัทธาอย่างมีปัญญา แล้วเราก็ต้องมีสัจจะในความเพียรที่จะทำให้เราเดินทางไปถึงสิ่งนั้นได้”
คือถ้ายังพิสูจน์ไม่ได้ ถ้าเราแพ้ไปเสียก่อนก็ยังตอบไม่ได้ แต่เราต้องมีกติกาที่ต้องมีความเพียร ถ้าเปรียบลิซ่า เขาก็มีสัจจะของเขา การมีกำลังของความเพียรที่ค่อยๆ เพิ่มไป ด้วยกำลังของสมาธิ ไม่ได้เป็นเงื่อนไขของสมาธิในรูปแบบที่เราต้องใช้ ท่านั่ง ยืน เดิน นอน แต่มันคือ กายกรรมทางกาย วจีกรรมทางวาจา และมโนกรรม ที่เราจะบอกว่าประตูนรกต้องไม่เปิด
แต่ถ้าอยากเดินทางด้านในสิ่งแรกที่ต้องทำคือ การปิดประตูนรก ไม่ใช่ว่านรกหรือขึ้นสวรรค์ขึ้น ไปไหนไม่ได้เลย จะขึ้นอยู่กับความชอบที่เหวี่ยงไปมา บอกว่าเราจะไม่ข้องแวะกับสิ่งที่ท่องเที่ยวแบบอโคจร แต่เรามองเห็นเส้นทางของเราในสโคปที่เล็กขึ้น จากนั้นถ้ามีศรัทธาความเพียร สติ สมาธิ และมีปัญญา อันนี้จะเป็นพลังของการเดินทาง ด้านในก็ต้องอาศัยพลังของผู้ที่ไม่ได้มีรูปแบบหรือขีดจำกัด อยู่ที่ท่าใดท่าหนึ่ง แต่ทุกคนมีอิสรภาพที่จะเข้าถึงพลังนี้ และตอบคำถามของตัวเองได้ว่าเราสนุกหรือเปล่า เราเห็นการเดินทางผจญภัยแบบ Special Journey หรือเปล่า หรือแม้การคืนลมหายใจ อันนี้ถือเป็นการเดินทางตลอดชีวิต หรือในช่วงที่การคืนลมหายใจที่เราจะคืนสู่ธรรมชาติ
การคืนลมหายใจ การจากลาแบบไม่ทุกข์
คุณสิริเกศอนงค์
ตอนเด็กเป็นคนที่ยึดติดกับครอบครัว แค่ฟังว่าพ่อแม่ป่วย แค่คิดก็น้ำตาไหล คือจะเป็นทุกข์ได้ง่ายมากกับเรื่องพ่อแม่ แต่ปรากฎว่า เวลาผ่านไป พอเติบโตได้เรียนรู้เรื่องลมหายใจหรือการจากกัน พอเวลาผ่าน ความเสียใจที่พ่อแม่เสียชีวิตมีอยู่ แต่ด้วยความเข้าใจ และพอเห็นการเป็นอยู่มันเป็นทุกข์ การละออกจากความทุกข์จากคนที่เรารัก มันทำให้เราไม่มีความรู้สึกว่าเป็นทุกข์อีกแล้ว ยินดีที่เห็นเขาพ้นทุกข์
โดยก่อนหน้าที่คุณพ่อคุณแม่ป่วย คุณแม่เป็นมะเร็งตับและรักษามาตลอด 10 ปี ส่วนคุณพ่อก่อนเสียชีวิตเป็นภาวะไตวาย แล้วพ่อเป็นคนที่รักและติดคุณแม่มาก คุณแม่เสียชีวิตก่อนคุณพ่อ 6 เดือน จากนั้นเริ่มเห็นว่าคุณพ่อไม่มีความสุขกับการมีชีวิตอยู่ แล้วจากที่มีความทุกข์ทางกายและใจ ทำให้เห็นเลยว่าการ
มีอยู่ การเป็นอยู่ทำให้เป็นทุกข์ คุณพ่อเป็นทุกข์
ตอนคุณแม่ป่วยแต่เพราะเขาเป็นพยาบาลและมีความเข้มแข็งมาก เข้าใจในการดำเนินของโรค และ
ไม่เคยบ่นเรื่องเจ็บปวด แต่เรารับรู้ได้ว่า การพาแม่ไปเจาะน้ำในท้องออกเดือนละ 1-2 ครั้ง เป็นความทุกข์ทรมานทางกายมาก แม้คุณแม่จะมีการเจริญสติตลอดแล้ว ก็ไม่ได้มีความทุกข์ทางใจแต่อย่างใด
เหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้เราได้เรียนรู้เองว่าถ้าคนที่เรารักเขาพ้นทุกข์แล้วเราจะทุกข์ไปทำไม บางคนเวลาคนที่จากพรากกันเป็นทุกข์ก็เพราะว่าไม่ทันตั้งตัว แต่ถ้าเราได้ลองพิจารณาแล้วว่า สิ่งนั้นเป็นอยู่เองตามธรรมชาติ
“ทุกคนต้องละจากโลกนี้ไป จะไปสู่ภพภูมิไหนเป็นเรื่องธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นกับทุกคนและทุกชีวิต เพราะฉะนั้นการจากพรากไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในโลก โลกก็เกิดขึ้นมาไม่รู้กี่พันปี มนุษย์ก็ไม่เกิดขึ้นมาเป็นหมื่นปี วงจรแบบนี้ที่คนที่รักกันต้องจากพรากกันมีนับแสนล้านครั้งแล้ว ซึ่งทุกคนก็ผ่านไปได้ เราคงไม่ได้ตายจากคนที่เรารักไป ความรักที่มีให้กันยังคงอยู่ ทำให้รู้ว่านี่เป็นเรื่องธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับทุกชีวิตบนโลก และถ้าเราเห็นคนที่เรารักจะพ้นทุกข์ เราควรจะเป็นสุข”
แม่ชีศันสนีย์
เก่งมากเลย เพราะถ้าความรักของเรามันเลือกตัวเราคนป่วยก็จะทรมานมาก ความรักที่มีต่อเขาเพื่อให้เขาเดินทางสงบภายในให้มีความร่มเย็น จนเขาได้ไปอย่างดี ไม่มีความกังวลใดๆ เขาเลือกที่จะคืนและไม่ฝืนไว้ เรามีหน้าที่เจริญกุศล เคารพในสิ่งที่เขาตัดสินใจโดยไม่มีความทรมานใดๆ การเดินทางท่องเที่ยวในอีกภพหนึ่ง คือการเดินทางด้านในหรือ Special Journey
“การเดินทางด้านในมาจากการฝึกและการยอมรับ เพราะการยอมรับจะทำให้เราฝึก ไม่โอดครวญ ไม่มีข้ออ้าง ไม่พิไลรำพัน เพราะจริงๆ แล้ว เราทุกคนต่างเป็นนักเดินทาง ตั้งแต่เกิดไม่ใช่เพิ่งสตาร์ท เราก็มีปัจจัยร่วมเกิดมาในครอบครัวของเรา เราเดินทางมาหลายภพ แต่ว่าการพบกันครั้งนี้สำคัญ ที่พบและจากกันในกุศล”
การฝึกการเดินทางด้านใน
แม่ชีศันสนีย์
ถือว่าเมืองไทยโดดเด่นที่ตอนนี้ไม่มีโรงแรมไว้ให้คนต่างประเทศเข้ามาพัก แต่คนต่างประเทศจะถามเราว่าสามารถที่จะสอนเขาหรือนำเขาเดินทางในเชิงลึกได้หรือไม่ ซึ่งอันนี้หุบเขาโพธิสัตว์กำลังตั้งรับมั่นกับการอยู่กับธรรมชาติมาก เพราะหุบเขาฯ อยู่ห่างจากอุทยานแห่งชาติระดับโลกเพียง 3-4 กม. และมีความชื้นดีมากตรงที่เราดินน้ำที่รายล้อม ทำให้เกิดละอองของความเย็นที่ฝนเคยไม่ตกต้องตามฤดูกาลแล้วมันจะผ่านไป แต่ตอนนี้ฝนตกทุกวัน ยังบอกว่าเลยนี่คืออีกหนึ่งผลงานที่มาช่วยสร้างมรดกทิ้งไว้ การเดินทางคือการให้มรดกแก่ตัวเองและสิ่งแวดล้อมที่เราได้เข้าไปเกี่ยวข้อง
เมืองไทยคือ Wellness Center
คุณสิริเกศอนงค์
จริงๆ เรามองเป็นภาพใหญ่คือ Well Being ที่ไม่ได้หมายถึงทางสุขภาพอย่างเดียว หรือรวมเรื่องของกายภาพและเรื่องของจิตใจไปด้วย จากส่วนตัวที่เคยไปปฏิบัติธรรมที่สวนโมกข์นานาชาติมา ก็คิดว่าเมืองไทยมีศักยภาพตรงนี้ได้ เพราะตอนนั้นอยากให้ของขวัญวันเกิดตัวเอง แต่เราไม่ได้เป็นคนปฏิบัติธรรม เพียงแต่เคยอ่านหนังสือบ้างเกี่ยวกับการตอบคำถามเรื่องธรรมะ และไม่ได้เชิงลึก เพราะหลังจากที่มีโอกาสไปเป็นจิตอาสาชำระเรื่องห้องสมุดที่สวนโมกข์ทำห้องสมุด ประทับใจมากเลยอยากไปปฏิบัติธรรม 1 คอร์ส และรู้สึกเลยว่า เป็นเรื่องที่เกินความคาดหวังมาก พอเข้าไปแล้วรู้สึกเลยว่า 2-3 วันแล้วโดนยุงกัด ไม่เคยนอนมุ้ง สิ่งหนึ่งที่บอกกับตัวเองว่า ไม่เป็นไรเพราะเลือกที่จะอยากจะมาฝึกเอง เพราะฉะนั้นต้องผ่านไปให้ได้ เหมือนเด็กน้อยมากที่ปฏิบัติทางด้านนี้ เพราะมักคิดว่า แย่แล้วเราโดนยุงกัดไปทั้งตัวเลย แต่พอค้นพบวิธีการนี้ได้โดยที่เราอาจจะได้อะไรไม่เยอะ เหมือนคนอื่นที่เขาอาจจะได้หลายหัวข้อจากการฝึกปฏิบัติ และรู้จักเทคนิคต่างๆ
สิ่งที่ได้รู้จักเทคนิคเดียวเลยหลังจากปฏิบัติครั้งนั้น และคิดว่ามีค่ามากจนมาถึงวันนี้คือ “การตัดผัสสะ” จากที่นั่งสมาธิและมีตัวต่อบินมาอยู่รอบๆ แต่ทุกคนก็นั่งนิ่งสนิท เราก็จะไปตกใจไม่ได้ พยายามคิดเราจะทำอย่างไร คิดว่าหลับตาลงเพื่อเป็นการตัดผัสสะเพื่อไม่ให้มองเห็น สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ก็อย่าเป็นซึ่งกันและกันเลย เราก็รู้สึกว่าความกลัวลดลง ซึ่งอาจเป็นเพราะว่าเราไม่เห็น เรารู้ว่าเขาอยู่ แต่เราตัดผัสสะทางตาไป แม้รู้สึกว่าเขาอยู่แหละ แต่เขาไม่ได้มากระทบกับจิตเรามาก สุดท้ายพอลืมตาขึ้น ต่อตัวนั้นเขาก็บินไป และเทคนิคนี้ก็เป็นสิ่งที่เรานำมาใช้ จนถึงทุกวันนี้เวลามีความทุกข์ หรือมีสิ่งเร้าขึ้นมา หรือบางคนอาจบอกว่ามันคือการ Ignore เหมือนเพิกเฉย ไม่ใช่เพราะเรายังรู้ว่าเขายังอยู่ เพียงแต่เราไม่เอาจิตไปใส่อยู่กับตรงนั้น นี่คือข้อเดียวที่ได้แต่มีค่ามากจากการไปปฏิบัติครั้งนั้น
และช่วงเวลาที่ได้ไปฝึกสวนโมกข์นานาชาติ เห็นมีทั้งคนไทยและต่างชาติมาฝึกปฏิบัติ จึงเห็นว่าชาวต่างชาติให้ความสนใจในการมาฝึกปฏิบัติที่เมืองไทย หากจะพูดในเชิงเปรียบเทียบจำนวนนักท่องเที่ยวก่อนโควิด-19 มีมากถึง 40 กว่าล้านคน แต่การฝึกทางด้านนี้อาจจะไม่ได้มีเยอะมาก แต่ก็ถือว่าเป็นนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ และอาจจะไม่ได้มีการใช้จ่ายเยอะมากในเชิงของการสร้างรายได้ ไม่ใช่การสร้างคุณค่าในเชิงเศรษฐกิจ แต่เป็นคุณค่าในเชิงสังคม ที่หาอะไรมาเปรียบเทียบได้ยาก ซึ่งการที่เราทำให้คนเพียงหยิบมือหนึ่งสามารถบรรลุสัจธรรมเพียงบางข้อได้ ถือว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามาก และถือเป็นรายได้ทางจิตวิญญาณ ไม่ได้เป็นตัวเงิน และคิดว่าเป็นการพัฒนาโลกและการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ที่บางคนอาจจะไม่ได้มีการศึกษาโดยตรง แต่สามารถศึกษาในเชิงปรัชญาได้ ก็คิดว่ามีประโยชน์และคิดว่าช่วยในเรื่องของการพัฒนาสังคมโลกได้อย่างมาก
แม่ชีศันสนีย์
เราอย่าคิดอะไรใหญ่โตอย่างนั้น เพราะมันเกินกำลัง เอาเป็นว่าตอนนี้เป็นจังหวะดีที่ตกปลาก็ต้องเวลาหิว หิวมาก็ต้องให้อาหาร ท่านอาจารย์พระพุทธทาสสอนว่าหุงข้าวไว้ให้อร่อย เดี๋ยวเขาก็หิวกันเอง เขามากินก็ติดใจ เพราะฉะนั้นอย่าคิดอะไรที่ใหญ่โตเกินกำลัง แต่เรารู้ว่าถ้าเรากำลังหิว เราควรรู้ว่าเราให้อะไรเขา แล้วเราก็ควรให้สิ่งที่ดีที่สุด แล้วเขาก็จะไปแจกของส่องตะเกียงเอง เพราะเขาก็จะเป็นผู้รับที่ซาบซึ้งและเป็นผู้รับที่เติบโต
การที่มีวัด ธรรมสถานที่สามารถปรับตัวเองได้ โดยมีโควิด-19 เป็นโจทย์ คนทุกข์เพราะเจอโควิด-19 อยู่กับชีวิตมานาน นำไปสู่ทุกข์และซึมเศร้าได้ เราต้องมีการใช้ศิลปะทุกแขนงเลยที่จะปรับพลังมนุษย์คนหนึ่งที่เคยคิดวนๆ จบได้ ให้เขารู้สึกได้ว่าเขายังเหลือพลังงานบวก สิ่งที่เขามียังมีประโยชน์อยู่ สิ่งที่เขากำลังได้โอกาสอีกครั้งหนึ่ง จากสถานกาณ์ที่ยากอย่างโควิด-19 ทำให้เขาไม่หลง ทำให้เขากลับมาความเป็นต้นน้ำของเขาได้เร็วขึ้น อันนี้เราต้องอาศัยการเห็นทุกข์ อันนี้เราช่วยคนอื่นไม่ได้ แต่เราสามารถช่วยตัวเองได้
ขอยกตัวอย่างหุบเขาโพธิสัตว์ เอาภาพเก่าใหม่มา 1 ปี ที่มีความชื้นกลับมาได้ขนาดนี้ ถ้าเรารู้จักดินน้ำลมไฟของเรา เรารู้จักวางจังหวะของการเดินทางด้านในของเรา เรียกว่าเป็นวิถีชีวิตไม่ใช้กิจกรรม การไปวัดไม่ใช่กิจกรรม แต่การวัดสติปัญญาของเราเวลาเจอความรู้สึกนึกคิดแล้วไม่เผลอเพลิน ด่าทอ
แต่ถ้าเราเฝ้าสังเกตตัวเองอย่างมีสติก็จะทำให้เรากลายเป็นคนที่ยอมรับความจริงได้ไม่ยาก แต่การยอมรับครั้งนี้ไม่ยอมให้เราเฉื่อยชา เราไม่ยอมจำนน เปลี่ยนร้ายกลายดี ในทุกวันที่อยู่หุบเขา ทุกวันถ้าเราไม่หลีกหนีออกไปจากธรรมชาติ จิตเดิมแท้เราจะประภัสสร (จิตที่บริสุทธิ์เดิม) แล้วกิเลสตามมาที่หลัง เราก็จะเป็นคนที่มีพลัง โดยที่เราก็ไม่ได้รู้สึกว่าหุบเขาเป็นของเรา แต่เรารู้ในมรดกที่เราได้ลงทุนและได้ทำงานหนักเอาไว้ เข้ามามีส่วนร่วมมากมายมหาศาล ซึ่งอาสาสมัครแต่ละคนที่มาก็ลดตัวตนทั้งนั้น ใครที่อยากเดินทางอยากมีชีวิตที่พร้อมจะฉุดช่วย หรือมีจิตอาสาไปรับใช้คนอื่นหรือเป็นบุคคลเอาบุคลไปขอบคุณ การฝึกการเดินทางด้านใน คนไทยหรือคนต่างประเทศเทศ มันต้องมีคนลิ้มลอง แล้วเอามาคุยกันให้มากขึ้น
ข้อแนะนำที่หุบเขาโพธิสัตว์
คุณสิริเกศอนงค์
ประโยคที่คุณยายพูดได้โดนใจมากคือ “ต้องไม่เกินกำลัง” เราอย่าไปนึกถึงใหญ่โต อันนี้เป็นคำสำคัญมาก เพราะคำว่าไม่เกินกำลัง ด้านการท่องเที่ยวจะหมายถึง ขีดความสามารถในการรองรับ Caring Capacity หรือกำลังของเราจะเป็นอย่างไรบ้าง เพราะโควิด-19 คือสิ่งที่เกิดขึ้นและเกินความคาดหมายของเราทุกคนทั้งนั้น เนื่องจากเราไม่รู้จักตัวเชื้อโรคดีพอ และก็ไม่รู้ถึงการกลายพันธุ์จะไปสิ้นสุด หรือหยุดการระบาดได้เมื่อไร ถือเป็นสถานการณ์ที่คลุมเครือและผันผวน (VUCA) ที่ทำให้การจะวางแผนการทำงานค่อนข้างยาก แต่ก็ไม่ได้หมายความทำไม่ได้สักทีเดียว เพราะเราอยู่กับมันมาปีครึ่งแล้ว ซึ่งก็ต้องดูว่าอะไรที่เราพอจะทำได้ พอพูดถึงการเปิดประเทศ ซึ่งทุกพื้นที่ก็น่าจะเป็นสีแดงเข้ม แต่ว่าถ้าลงไปในรายละเอียดแต่ละพื้นที่ ยังมีช่องทางได้หายใจ
อย่าง ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) ไม่เกินกำลัง เพราะเราดูว่าขีดความสามารถในการรองรับเรามีอยู่เท่าไร เตียงที่รับคนไข้ และมีการเตรียมแผนเผชิญเหตุว่า จำนวนผู้ป่วยระดับไหนถึงพอที่จะทำให้เราต้องยุติหรือมาทบทวนกระบวนการทำงาน รวมถึงการวางมาตรฐานต่างๆ ต่อให้โควิด-19 หมดไปทุกอย่างก็จะไม่กลับไปเหมือนเดิมแน่ๆ และหลายคนจึงให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องสุขอนามัยมากขึ้น
ททท. เซ็ทตัวมาตรฐาน SHA - Amazing Thailand Safety and Health ที่จะไปดูรายละเอียดที่
ผู้ประกอบการมีการบริหารจัดการอย่างไรที่จะให้ได้มาตรฐานนี้ www.thailandsha.com เช่น
ร้านอาหารต้องมีการวัดอุณหภูมิ ตรวจเช็ก แอลกอฮอล์ และมีเพิ่มเติมมา SHA Plus ที่พนักงานให้บริการต้องมีการได้รับวัคซีนแล้ว ซึ่งแต่ละพื้นที่จะเป็นคนกำหนด เนื่องจากแต่ละพื้นที่จะมีขีดความสามารถในการเปิดรับได้ไม่เท่ากัน เช่น เกาะสมุยเป็นเกาะที่มีขนาดเล็กกว่าภูเก็ต ดังนั้นก็ต้องมีมาตรการเข้มข้นกว่า เมื่อมาเที่ยวก็ต้องอยู่ที่ รร.ที่กักตัว 3 วันเท่านั้นและห้ามออกไป จากนั้นค่อยออกเดินทางไปตามที่มีการอนุญาตไว้ได้ แต่ทุกอย่างจะถูกออกแบบเพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัย
ขณะเดียวกันชาวบ้านในพื้นที่เองก็ต้องปลอดภัยด้วยเช่นกัน ไม่ใช่ใครอยากให้เปิดล็อกได้ เราได้มีมาตรการรองรับไว้อย่างดี มีการหารือทั้งกระทรวงสาธารณสุขจังหวัดทุกพื้นที่ และมีการออกแบบร่วมกับสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวแต่ละพื้นที่ ททท. กระทรวงสาธารณสุข
รวมทั้งได้มีการทำประชาพิจารณ์ในพื้นที่ว่าประชาชนอยากให้เปิดหรือเปล่า เพราะอันนี้สำคัญมากกว่าเศรษฐกิจ ซึ่งถ้าชาวบ้านไม่เห็นด้วย แม้จะมีขีดความสามารถทางด้านสาธารณสุข แต่เราก็ต้องคำนึงถึงทางความรู้สึก เพราะบางคนอาจไม่อยากให้เปิด ดังนั้นต้องมีการพูดคุยกัน ซึ่งสุดท้ายจะปล่อยให้เปิดในพื้นที่ที่มีความพร้อมจริงๆ และแบ่งพื้นที่ในโซนสำหรับผู้ที่มีความจำเป็นต้องเดินทางตอนนี้จริงๆ
คิดว่าถ้าหลังจากที่เราสามารถผ่อนคลายมาตรการได้มากกว่านี้ ก็จะสามารถพูดถึง การเดินทางจิตวิญญาณ Special Journey Hub หรือ Well Being ก็จะตามมา เพราะตอนนี้อย่างโควิด-19 เป็นความทุกข์ทางกายภาพที่กระทบต่อจิตใจ แต่คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงความทุกข์ทางกายมาก่อน ส่วนจิตใจถ้าใครศึกษา พอจะมีกุญแจหลักปฏิบัติธรรมศาสนาพุทธ และการที่เขาจะเดินทางมาประเทศไทยไม่ใช้เรื่องยาก ซึ่งน่าจะย่อมรู้ดีว่าประเทศไทย ก็เป็นประเทศหนึ่งในโลกที่มีหลักปรัชญาศาสนาพุทธที่ค่อนข้างเข้มแข็ง
การท่องเที่ยวภายนอกและการเดินทางภายใน
แม่ชีศันสนีย์